อบรมเชิงปฏบัติงการ 'ข่าวสิทธิเด็ก'

มหาวิทยาลับราชภัฏอุดรธานีได้จัดงาน อบรมเชิงปฏิบัติการ ข่าวสิทธิเด็ก ขึ้นในวันที่ 14-15 ย.ย 58 ร่วมกับ unicef ขี้นที่โรงแรมไทย-ลาว รีเวอร์ไซต์ โดยมีนักศึกษาต่างต่าง จาก สปป ลาว และ นักศึกษาต่างจังหวัด จาก ร้อนเอ็ด เข้ามาร่วมอบรมด้วย

ในวันที่14 พ.ย 58 เวลา 9.00 น.ผศ.ดร เสกสรรค์ สายสีสด ได้เปิดงานโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการข่าวสิทธิเด็ก และมีพิธีกรเข้ามาบรรยายทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย ในส่วนของวันที่ 18 พ.ย ทางอาจารย์ที่เข้าอบรมได้ให้นักศึกษาได้ลงพื้นที่จริง ในการทำข่าวเกี่ยวกับสิทธิเด็ก และมีกิจกรรมนันทนาการเสริมเข้ามาด้วย คือการคิดเพลงบูมประจำกลุ่มเพื่นชิงของรางวัลอีกด้วย

การเข้าอบรมครั้งนี้ถือว่าเป็นประสบการณืในการทำข่าว มีการลงพื้นที่จริง ทำให้ได้รับรู้ถึงการทำงาน และการปฏิบัติงานร่วมกับเพื่อนต่างชาตและต่างมหาลัย

ทุกข์ซ้ำชาวนารถเกี่ยวข้าวราคาพุ่งเท่าตัว
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ได้รับการร้องเรียนจากชาวนา ว่าชาวนาในพื้นที่ ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน กำลังได้รับความเดือดร้อนจากค่าเกี่ยวข้าว ที่มีราคาสูงกว่าที่ทางราชการกำหนด ด้วยการนำหลักฐานคลิปวีดีโอ.แอบบันทึกเสียง การต่อรองราคาค่าเกี่ยวข้าว ระหว่างบุตรชายเจ้าของนาข้าว ที่มีนาข้าวที่เป็นข้าวล้ม กับรถรับจ้างเกี่ยวข้าว ที่ต้องการค่าจ้างสูงถึงไร่ละ 1,500 บาท แม้จะต่อรองว่าต้นข้าวล้มเพียงบางส่วนก็ไม่เป็นผล อยากให้ทางราชการมาตรวจสอบ เพราะมีราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมามาก
นางไสว น้อยสุวรรณณา(ขณะเกี่ยวข้าว) เปิดเผยว่า แต่ก่อนค่าแรงเกี่ยวข้าวไม่เท่าไหร่ จนมาเป็นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท แต่เพราะข้าวในนาต้องเก็บเกี่ยวพร้อมกัน เจ้าของนาก็ไปเร่งจ้างคนมาเกี่ยว ด้วยการเสนอค่าแรงเพิ่มขึ้น สัญญาเลี้ยงข้างกลางวันดีๆ แรงงานก็แห่ไปเกี่ยวข้าวให้ก่อน ราคาค่าแรงก็เพิ่มสูงขึ้น ส่วนรถเกี่ยวข้าวมีทั้งในหมู่บ้าน และมาจากต่างถิ่น ตอนต้นฤดูมาติดต่อจองกันราคาไร่ละ 800-1,000 บาท ตอนนี้ไม่รู้ว่าราคาขยับขึ้นหรือเปล่า ขณะที่นาของตนเองก็จ้างแรงงาน และลงมือเกี่ยวเอง
กรมการค้าภายในประกาศราคาแนะนำ รถเกี่ยวข้าวไร่ละ 600 บาท และสามารถเพิ่มขึ้นได้หากมีความยากง่าย อาทิ ระยะทาง , น้ำขัง , ข้าวล้ม และอื่นๆ ที่ผ่านมาได้สำรวจพบว่า ค่าแรงงานเกี่ยวข้าวมากกว่าวันละ 350 บาท และมีอาหารเลี้ยง 1 มื้อ ส่วนค่ารถเกี่ยวข้าวมีราคาสูงถึงไร่ละ 1,000 บาท เกิดจากปริมาณรถเกี่ยวข้าวไม่เพียงพอ แม้จะมีรถจากภาคกลางมารับจ้างก็ตาม ซึ่งหากราคาขยับสูงขึ้นไปถึงไร่ละ 1,500 บาท ถือว่ามีราคาสูงเกินไป หากรับร้องเรียนก็จะออกไปตรวจสอบไกล่เกลี่ย สามารถร้องมาที่ สนง.การค้าภายใน จ.อุดรธานี หรือที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง...

ชาวบ้านเดือดร้อน ราคามันสำปะหลังตกต่ำ

         ชาวบส้นในเขตเทศบาลตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ได้รับความเดือดร้อน จากราคามันสำปะหลังที่นับวันยิ่งถดถอยลงเรื่อยๆ ราคาตกลงต่ำมาก จากแต่ก่อนที่เคยขายได้ กก. ละ 2.5 บาทจึงทำให้ได้รับความสนใจจากชาวบ้านกันเป็นอย่างมาก แต่ช่วงนี้ไม่ถึง 2 บาท ด้วยซ้ำไป บางครอบครัวก็ผันจากการทำไร่อ้อยมาทำมันสำปะหลังกันเยอะแยะมากมาย แต่พอมีชาวบ้านปลูกเยอะขึ้น จากที่คาดหวังว่าจะได้รายได้เพิ่นขึ้น แต่กลับได้รายรายได้ลดลง เพราะช่วงนี้ราคาปุ๋ยก็ขึ้นราคา แต่ราคามันกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง

ชาวบ้านหวาดกลัวโจร
ชาวตำบลหนองไผ่ ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ต่างหวาดผวากันเรื่องปล้นชิงทรัพย์ 
ในการเดินทางไปมาระหว่างทางลัดไปตัวอำเภอหนองหาน กับตำบลของเราได้มีโจรดักปล้นคนขับรถสันจรไปมาระหว่างทางซึ่งผู้ขับขี่ผ่านไปมาจะโดนขับรถตามมาจี้ถึงจะเป็นผู้ชายหรือหญิงก็ไม่เว้น ทำให้ชาวบ้านระแวกนั้นไม่มีใครถ้าใช้ถนนเส้นนั้นเลย ผู้อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า ลักษณะของโจรจะเป็นผู้ชายสองคนใส่โม่งดำ ขับมอไซเข้ามาติดๆเพื่อจี้เอาของมีค่า ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวตกำลังเร่งสอบหาตาคนร้ายเพื่อมาดำเนินคดี แต่ยังไม่ทีเบาะแสแต่อย่างใดเลย
จึงขอเตือนภัยชาวบ้านในระแวกนั้นด้วยว่า ช่วงนี้ให้ใช้ถนนเส้นหลักจะปลอดภัยกว่า เพราะมีรถสัญจรผ่านไปมาตลอด คาดว่าคนร้ายไม่น่าจะกล้าลงมือก่อเหตุ

เทศกาลกินเจ

ในวันที่  13  ตุลาคม ชาวตำลบหนองหนองไผ่ถึงแม้ว่าจะเป็นตำบลเล็กๆอยู้ไกลจากในเมืองมากพอสมควร แต่ชาวบ้านบางส่วนก็ได้เข้าร่วมเทศกาลถือศิลกิจเจกัน ทำใหเพืชผักในช่วงนี้ขึ้นราคาแพงมากกว่าปกติ ผลกระทบนี้รวมไปถึงประชาชนที่ไม่ได้ร่วมกินเจด้วย เพราะต้องใช้พืชผักในการปรุงอาหาร ทัั้งนี้การกินเจจะสิ้นสุดลงในวันที่ 21 ตุลาคม คาดว่าของจากราคาแพงในช่วงกินเจ จะปรับลงราคาเป็นปกติ

nongpainews

ในเช้าวันอาทิตที่ 4 ตุลาคม 2556 ณ ภูทอกจังหวัดเลย มีหมวกหนาปกคลุมทั่วพื้นที่ของจังหวัดเลย เชียงคาน แม้จะเป็นหน้าร้อนแต่อากาศที่นี่ก็ดีตลอดทั้งปี และผู้คนคับคั่งหลั่งหลาเข้ามาเที่ยวชมทะเลหมอกอย่างไม่ขาดสาย คนจะเริ่มเข้าไปรอตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง เพราะจะรอดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่เนื่องด้วยหมวกในตอนเช้าหนามาก จึงเป็นอุปสรรค์ในการชมพระอาทิตขึ้น กว่าจะได้เจอแสงแดดก็ปาเข้าไปเก้าโมงกว่า ทำให้ตอนพระอาทิตขึ้นทอแสงและหมวกก็หายไป แต่ชาวบ้านให้สัมภาษว่าถ้าจะดูแบบสวยๆ ต้องมาช่วงหน้าหนาว